น้องๆหลายคนชอบถามว่าอยากเป็นนักแปลเอกสาร
ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง การเป็นนักแปลเอกสารที่ดีต้องอาศัยทักษะหลายๆด้าน
บทความที่แล้วเรากล่าวถึงทักษะด้านภาษา บทความนี้เราจะกล่าวถึงการหมั่นหาความรู้นะครับ
หนทางที่จะทำให้คุณมีอาชีพเป็นนักแปลเอกสารเต็มตัวได้
วิธีแรกคือแตกฉานในภาษาที่ต้องการแปล วันนี้จะมากล่าวถึงวิธีที่สองนะครับ วิธีที่สองก็คือ
นอกจากคุณจะแตกฉานในภาษาที่คุณจะแปลแล้ว คุณจะต้องหมั่นหาความรู้ใหม่ๆในภาษานั้นๆ
สม่ำเสมอด้วย
เพราะภาษาไม่ใช่คณิตศาสตร์ครับ ภาษาไม่ใช่ฟิสิกส์ ไม่มีแรงโน้มถ่วง อย่าคิดว่านี่เป็นข้อเสีย ผมจะบอกได้เลยว่า ความไม่แน่นอนของภาษานี่แหละ เป็นบุญของนักแปลเอกสารอย่างเราๆที่สุดแล้ว ในยุคเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว คอมพิวเตอร์คิดเลขแทนเราได้แล้ว คอมพิวเตอร์พิมพ์งานแทนเราได้แล้ว คอมพิวเตอร์วาดรูปแทนเราได้แล้ว แต่คอมพิวเตอร์ยังแปลเอกสารแทนเราไม่ได้ครับ
จงภูมิใจนะครับว่า พวกเรายังมีงานทำไปได้อีกนาน แสนนานไม่เหมือนงานหลายงานของมนุษย์ที่คอมพิวเตอร์แย่งงานไปได้หมดแล้วไม่อย่างนั้น ป่านนี้คุณโดน Google Translate หรือบรรดาโปรแกรมแปลเอกสารต่างๆ แย่งงานกันไปหมดแล้วครับ แต่ปัจจุบันคุณก็จะเห็นด้วยกับผมว่า บรรดา โปรแกรมแปลเอกสารทั้งหมดที่คิดค้นกันขึ้นมาบนโลกนี้ ตั้งแต่พื้นฐาน อย่าง Google Translate จนถึงระดับเทพจุติอย่าง Trados ก็ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของสมองมนุษย์ อย่างมากก็ทำได้แค่เพียงช่วยเตือนความให้เราแปลคำได้เหมือนกันๆมากว่า เป็นตัวช่วยในการแปลเอกสารเท่านั้น
ภาษามีคำศัพท์ใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา บางคำก็มาเร็วไปเร็ว บางคำก็เป็นศัพท์วัยรุ่นนิยมใช้ในอินเตอร์เน็ต ดังเพียงข้ามคืน เช่น แก่ ใจดี สปอร์ต กทม-เงียบ สงสัยไม่ช็อต หรืออย่างคำไทยๆ ว่าจุงเบย ที่มันฮิต (กันได้อย่างไรก็ไม่รู้) ถ้าคุณไม่ใช่คนไทยแล้วไม่เคยอ่านในเนทพวก fanpage ก็งง เป็นไก่ตาแตกแน่เลยว่าจะแปลเป็นอะไรดี
ผมยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ หากคุณเป็นนักแปลเอกสารภาษาเกาหลีแล้ว บรมเชย ไม่เคยรู้จัก คำว่า กังนัม สไตล์เลย เมื่อไปเจอคำนี้เข้า แทนที่คุณจะใช้ทับศัพท์ไปว่าเพลง กังนัมสไตล์ คุณอาจรู้ลึกแปลไปว่า ย่านหรูหราของเกาหลี เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นได้ว่า ในงานแปลเอกสารนั้น คุณจำเป็นต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ความรู้ตัวเองอยู่เสมอ
อัพเดตตัวเองง่ายๆ ก็คือการอ่านแล้วติดตาม สิ่งพิมพ์ข่าวสาร โทรทัศน์ ต่างๆ ในภาษาที่เราต้องการจะแปลไม่ว่าจะเป็น รายการทีวี นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นสิ่งที่นักแปลเอกสารจะขาดไม่ได้ในการติดตามความเปลี่ยนแปลงไปของภาษา
เพราะภาษาไม่ใช่คณิตศาสตร์ครับ ภาษาไม่ใช่ฟิสิกส์ ไม่มีแรงโน้มถ่วง อย่าคิดว่านี่เป็นข้อเสีย ผมจะบอกได้เลยว่า ความไม่แน่นอนของภาษานี่แหละ เป็นบุญของนักแปลเอกสารอย่างเราๆที่สุดแล้ว ในยุคเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว คอมพิวเตอร์คิดเลขแทนเราได้แล้ว คอมพิวเตอร์พิมพ์งานแทนเราได้แล้ว คอมพิวเตอร์วาดรูปแทนเราได้แล้ว แต่คอมพิวเตอร์ยังแปลเอกสารแทนเราไม่ได้ครับ
จงภูมิใจนะครับว่า พวกเรายังมีงานทำไปได้อีกนาน แสนนานไม่เหมือนงานหลายงานของมนุษย์ที่คอมพิวเตอร์แย่งงานไปได้หมดแล้วไม่อย่างนั้น ป่านนี้คุณโดน Google Translate หรือบรรดาโปรแกรมแปลเอกสารต่างๆ แย่งงานกันไปหมดแล้วครับ แต่ปัจจุบันคุณก็จะเห็นด้วยกับผมว่า บรรดา โปรแกรมแปลเอกสารทั้งหมดที่คิดค้นกันขึ้นมาบนโลกนี้ ตั้งแต่พื้นฐาน อย่าง Google Translate จนถึงระดับเทพจุติอย่าง Trados ก็ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของสมองมนุษย์ อย่างมากก็ทำได้แค่เพียงช่วยเตือนความให้เราแปลคำได้เหมือนกันๆมากว่า เป็นตัวช่วยในการแปลเอกสารเท่านั้น
ภาษามีคำศัพท์ใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา บางคำก็มาเร็วไปเร็ว บางคำก็เป็นศัพท์วัยรุ่นนิยมใช้ในอินเตอร์เน็ต ดังเพียงข้ามคืน เช่น แก่ ใจดี สปอร์ต กทม-เงียบ สงสัยไม่ช็อต หรืออย่างคำไทยๆ ว่าจุงเบย ที่มันฮิต (กันได้อย่างไรก็ไม่รู้) ถ้าคุณไม่ใช่คนไทยแล้วไม่เคยอ่านในเนทพวก fanpage ก็งง เป็นไก่ตาแตกแน่เลยว่าจะแปลเป็นอะไรดี
ผมยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ หากคุณเป็นนักแปลเอกสารภาษาเกาหลีแล้ว บรมเชย ไม่เคยรู้จัก คำว่า กังนัม สไตล์เลย เมื่อไปเจอคำนี้เข้า แทนที่คุณจะใช้ทับศัพท์ไปว่าเพลง กังนัมสไตล์ คุณอาจรู้ลึกแปลไปว่า ย่านหรูหราของเกาหลี เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นได้ว่า ในงานแปลเอกสารนั้น คุณจำเป็นต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ความรู้ตัวเองอยู่เสมอ
อัพเดตตัวเองง่ายๆ ก็คือการอ่านแล้วติดตาม สิ่งพิมพ์ข่าวสาร โทรทัศน์ ต่างๆ ในภาษาที่เราต้องการจะแปลไม่ว่าจะเป็น รายการทีวี นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นสิ่งที่นักแปลเอกสารจะขาดไม่ได้ในการติดตามความเปลี่ยนแปลงไปของภาษา
เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ
เช่นกันนะครับ
ไม่อย่างนั้นจะดิ้นตามภาษาไม่ทันแล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นนักแปลเอกสารตกยุค
แปลได้แต่นวนิยาย วรรณคดี โบราณ ที่ไม่มีใครต้องการแล้วนั่นเองครับ ยังมีอีกหลายขั้นตอนเลยนะครับ
สำหรับการเป็นนักแปลเอกสารที่ดี และที่เด่น ตอนหน้าเรามาว่ากันถึง
ความจำเป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกันก็คือ ความรู้รอบตัวครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น