จากบทความที่แล้วเรากล่าวกันไปแล้วนะครับ
ถึงอุปนิสัยของนักแปลที่ประสบความสำเร็จข้อสองก็คือ การหมั่นหาความรู้ บทความนี้
เป็นข้อที่คล้ายๆกันครับ การที่คุณจะแปลเอกสารได้ดีนั้น
นอกจากหมั่นหาความรู้ในภาษาที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว คุณยังต้องหมั่นค้นหา
หัวข้อที่คุณต้องการแปลเฉพาะที่จะทำให้คุณมีชื่อเสียงโด่งดังได้ด้วย
ประมาณว่า ถ้าจะแปลเรื่องนี้ต้องนึกถึงคุณเท่านั้น การที่จะไปถึงจุดนี้ได้ ต้องอาศัยการขวนขวายหาความรู้ ความเชี่ยวชาญอย่างหนักหน่วงเลยครับ โดยปกตินั้น ไม่ว่าคุณจะมีความรู้ทางด้านภาษาระดับเทพเจ้าขนาดไหน ก็ไม่สามารถแปลเอกสารได้ถูกต้องยอดเยี่ยมไปทุกหัวข้อนะครับ เช่น จะมีวิศวกรสักกี่คนที่ แปลกฎหมายได้ดีเยี่ยม หรือจะมีคนที่เชี่ยวชาญด้านการแปลโฆษณา นวนิยาย สักกี่คน ที่พอให้เอกสารด้าน IT ไปแล้วก็ยังสามารถแปลได้ถูกต้องคล่องแคล่ว ไร้ที่ติ
เห็นไหม น้อยนะครับ เพราะฉะนั้นการเลือกรับแปลเอกสาร ถ้าไม่ได้อดอยากปากแห้งอะไร คุณคงจะต้องเลือกรับเฉพาะบางหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญ และสามารถแปลได้ดี เพื่อสงวนชื่อเสียงของคุณไว้ ทำมาหากินในวงการแปลเอกสารได้ในระยะยาวครับ
ประมาณว่า ถ้าจะแปลเรื่องนี้ต้องนึกถึงคุณเท่านั้น การที่จะไปถึงจุดนี้ได้ ต้องอาศัยการขวนขวายหาความรู้ ความเชี่ยวชาญอย่างหนักหน่วงเลยครับ โดยปกตินั้น ไม่ว่าคุณจะมีความรู้ทางด้านภาษาระดับเทพเจ้าขนาดไหน ก็ไม่สามารถแปลเอกสารได้ถูกต้องยอดเยี่ยมไปทุกหัวข้อนะครับ เช่น จะมีวิศวกรสักกี่คนที่ แปลกฎหมายได้ดีเยี่ยม หรือจะมีคนที่เชี่ยวชาญด้านการแปลโฆษณา นวนิยาย สักกี่คน ที่พอให้เอกสารด้าน IT ไปแล้วก็ยังสามารถแปลได้ถูกต้องคล่องแคล่ว ไร้ที่ติ
เห็นไหม น้อยนะครับ เพราะฉะนั้นการเลือกรับแปลเอกสาร ถ้าไม่ได้อดอยากปากแห้งอะไร คุณคงจะต้องเลือกรับเฉพาะบางหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญ และสามารถแปลได้ดี เพื่อสงวนชื่อเสียงของคุณไว้ ทำมาหากินในวงการแปลเอกสารได้ในระยะยาวครับ
การเลือกหัวข้อที่คุณจะแปลนั้น
จริงๆแล้วง่ายมาก มาจากมันก็มาจากเหตุผลใหญ่ๆสามประการด้วยกันก็คือ
1. ประสบการณ์ทำงาน – คนส่วนมาก รับแปลเอกสาร เป็นงานอดิเรก หรือรายได้เสริมครับ แล้วส่วนมากก็จะรับหัวข้อตามงานที่ทำ เช่นนักบัญชี ก็จะรับแปลงานทางด้านบัญชี หรือทนายก็จะรับแปลเอกสารด้านกฎหมาย เป็นการนำประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญส่วนตัวมาต่อยอดหารายได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ว่าได้ในการ ใช้ทักษะมาหากินเพิ่มเติมครับ
2. ความสนใจ – ความสนใจส่วนตัว ทำให้คุณเพิ่มขีดความสามารถในการแปลเอกสารของคุณได้มากยิ่งขึ้นกว่าหัวข้อที่คุณเรียนมาครับ เพราะมันจะทำให้คุณสนใจหัวข้อนั้น อ่านหัวข้อนั้นบ่อย และมีความรู้รอบตัวในเรื่องนั้นๆ และแน่นอน ทำให้คุณแปลเอกสารในหัวข้อนั้นๆได้อย่างเชี่ยวชาญ ถูกต้องและไม่เคอะเขิน หาดิกทุกคำ เสียเวล่ำ เวลาแต่อย่างใด
3. การศึกษา - พื้นฐานแต่ละคนไม่เหมือนกัน จบอะไรมารู้ทางด้านไหนก็แปลไปด้านนั้น หากคุณจบมาทางด้านภาษา คุณก็แปลอะไรที่เป็นภาษาศาสตร์ล้วนๆไป หากจบวิศวะ หรือไอทีก็แปลงานเกี่ยวกับด้านนั้นๆไปครับ
หากคุณเป็นคนที่แปลงานด้านนั้นได้เก่งจริงๆแล้ว
ผมรับรองเลยครับว่า คุณจะมีงานแปลเอกสารไหลมาเทมาอย่างแน่นอน
ในเรื่องที่คุณเชี่ยวชาญ และที่สำคัญ คุณยังสามารถขึ้นค่าตัวได้ด้วย
เพราะการแปลเอกสารนั้น สุดท้ายแล้วคุณภาพก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ยังมีบริษัทใหญ่ๆอีกมากมายที่ยินดีจ่ายแพงกว่า
เพื่อให้งานแปลที่ออกมามีคุณภาพดีกว่านั่นเองครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น